Description
กรดมะนาว Citric Acid Monohydrate ซิตริก แอซิด โมโนไฮเดรตกรดมะนาว หรือชื่อทางเคมี คือ ซิตริก แอซิด โมโนไฮเดรต (Citric Acid Monohydrate) Food Grade ใช้ในอาหาร เป็นกรดอินทรีย์ (Organic Acid) มีคุณสมบัติเป็นกรดอ่อน มีรสเปรี้ยว สามารถผลิตได้จากน้ำผลไม้ การหมักแป้งและน้ำตาล แต่ในปัจจุบันส่วนมากการผลิตกรดมะนาว หรือ Citric Acid จะผลิตจากเชื้อรา Aspergillus Niger โดยวัตถุดิบที่ใช้ในการหมัก คือกากน้ำตาล กรดมะนาว หรือ ซิตริก แอซิด นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่ม เป็นสารแต่งกลิ่น สารคีเลท ใช้เป็นส่วนประกอบในสารทำความสะอาด และยังใช้เพื่อปรับค่า pH ในอาหาร เครื่องดื่ม หรือสารอื่น ๆ รายละเอียดผลิตภัณฑ์มีลักษณะเป็นผงสีขาว ใส ไม่มีกลิ่น มีรสเปรี้ยว เป็นกรดอินทรีย์ (Organic Acid) มีคุณสมบัติเป็นกรดอ่อน
พบได้ตามธรรมชาติในอาหารหลายชนิดได้แก่ พืชตระกูลส้ม (Citrus) เช่น ส้ม มะนาว และผลไม้หลายชนิด มะนาวมีกรดซิตริกเป็นส่วนประกอบ 7 – 9 เปอร์เซ็นต์ ซิตริก แอซิด นิยมนำไปใช้เป็นวัตถุเจือปนอาหาร (Food Additive) ใช้เพื่อเพิ่มความเปรี้ยวของอาหารและเครื่องดื่ม ใช้เพื่อปรับสภาวะความเป็นกรด ใช้เพื่อปรับค่าความเป็นกรดด่าง (pH) ใช้เพื่อปรับความเป็นกรดของอาหาร (Acidified Food) อีกทั้งยังใช้เป็นวัตถุกันเสีย (Preservative) เพื่อถนอมอาหาร ใช้เป็นสารกันหืน (Antioxidant) เป็นสารดักจับโลหะ (Chelating Agent) สารกำจัดตะกรัน สารผสมในสบู่และเป็นสารทำความสะอาด (Cleaning Agent) การนำไปใช้ เป็นวัตถุเจือบนอาหาร ใช้ปรับสภาวะความเป็นกรดในอาหาร เครื่องดื่ม เป็นสารปรุงแต่ง กลิ่น รส ใช้เป็นวัตถุกันเสีย สารกันหืน สารดักจับโลหะ สารกำจัดตะกรัน สารผสมในสารทำความสะอาด สารละลายกรดซิตริกความเข้มข้น 5% มีค่า พีเอช (pH) เท่ากับ 1.87อัตราส่วนการใช้งานขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการนำไปใช้ปริมาณที่ใช้ในอาหาร(ปริมาณสูงสุดที่ให้ใช้ได้ (มิลลิกรัมต่อ 1 กิโลกรัม เว้นแต่ได้ระบุปริมาณเฉพาะไว้แล้ว)
การใช้ประโยชน์ : เป็นวัตถุเจือปนอาหารสำหรับอาหารและเครื่องดื่ม
- ใช้ปรับภาวะความเป็นกรด ปรับ pH ในอาหาร
- ปรุงแต่งกลิ่น รส (flavoring agent) ปรับให้อาหารมีรสเปรี้ยว
- เป็นสารกันหืน (antioxidant)
- เป็นสารกันเสีย (preservative)
- เป็นสารจับโลหะ (chelating agent)
- เป็นสารทำความสะอาด ใช้ล้างท่อ ในโรงงานอุตสาหกรรม (cleaning agent)
คุณลักษณะ : เกล็ดสีขาวเล็ก ละลายน้ำได้ดี
ปริมาณการใช้งาน : ใช้ปริมาณ 0.1 – 0.3 % หรือ 1 – 3 กรัม ต่ออาหาร 1 กิโลกรัม
วิธีการเก็บรักษา : ควรเก็บในที่แห้ง อุณหภูมิปกติ หรือในที่เย็น ไม่ควรตากแดด ไม่ควรเก็บในที่ร้อน
